วันอาทิตย์ที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

“50 ข้อคิด” มุมมองเพื่อความเข้าใจในชีวิต


“50 ข้อคิด” 
มุมมองเพื่อความเข้าใจในชีวิต

1. เมื่อเด็กกำลังเติบโตเป็นวัยรุ่น มีความต้องการเป็นตัวของตัวเองสูง ผู้ใหญ่ที่ไม่เข้าใจและใจแคบมักจะมองว่าเด็กดื้อ

2. คนเราจิตตกได้เป็นครั้งคราว อาจทำอะไรที่ไม่เหมาะสมได้ การรู้ตัวเองและให้อภัยตัวเอง จึงเป็นสิ่งสำคัญ

3. คนอกหักไม่อาจตัดความโศกเศร้าได้ด้วยเหตุผลเพียงอย่างเดียว เวลาเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการเยียวยาความรู้สึกดังกล่าว

4. ให้เคารพแนวคิดของผู้อื่นบ้าง เสมือนหนึ่งเป็นอีกแนวคิดหนึ่งที่ต่างไปจากเราเท่านั้นเอง

5. ตนเองเสียเมื่อไหร่ที่คิดดี คิดชอบเป็นอยู่คนเดียว

6. ทำไปเพราะไม่รู้ ให้อภัยกันได้ รู้แล้วยังทำ คือ ความดื้อ

7. ก่อนที่จะว่ากล่าวถึงนิสัยไม่ดีของลูกนั้น ให้มองตัวพ่อแม่เองก่อนด้วยว่า เรามีส่วนผลักดันให้เขาเป็นเช่นนั้นด้วยหรือเปล่า

8. ความทุกข์ของมนุษย์ 100% เกิดจากการพยายามฝืนความจริงของธรรมชาติ

9. หากต้องอยู่กับคนที่ไม่เกรงใจกันเลย พูดกับเขาให้น้อยลง เล่นกับเขาให้น้อยลง

10. หากอยากได้อะไร ก็ควรเสียอะไรบ้าง

11. ถ้าเราปล่อยให้โลก เร่งตัวเรา ควบคุมตัวเรา จนเราขาดอิสระภาพ เราก็จะทุกข์ ถ้าเราจะเร่งโลก ควบคุมโลกให้โลกนี้เป็นไปตามความต้องการของเรา เราก็ทุกข์เช่นกัน

12. ความฉลาดอาจหลอกคนได้ ความจริงใจต่างหากที่จะชนะใจคน

13. การให้ความสำคัญกับกฎเกณฑ์มากไป ทำให้เราลืมธรรมชาติ ลืมความเป็นจริงได้ง่าย

14. อารมณ์เป็นตัวกำหนดความคิด ความคิดกำหนดพฤติกรรม หากจะเข้าใจพฤติกรรมของคนให้ถูกต้อง จึงต้องอ่านอารมณ์ให้ออก

15. การมองอะไร ว่าดี ว่าเลว ขึ้นกับว่าอารมณ์ของเราขณะนั้นเป็นอย่างไร

16. ทำอะไรก็แล้วแต่ ควรมีหลักการบ้าง แต่ต้องระวังอย่ายึดเป็นกฎเกินไป

17. อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิดเป็นคำพื้นๆ ที่ใช้มาเตือนสติเราได้ดีตลอดกาล

18. การพยายามทำอะไรทุกอย่างให้ได้ การสงสัยอะไรทุกเรื่องเป็นความโง่ได้ก็เพราะว่าเรื่องต่างๆ ในโลกนี้มีตั้งหลายเรื่องที่ใช่ว่าเราจะรู้มันได้ง่ายและเรื่องอีกหลายเรื่องก็ไม่จำเป็นที่ต้องตอบให้ได้ด้วย

19. คุณธรรมส่อคุณค่าของมนุษย์มากกว่าความฉลาด

20. อะไรก็ตามแต่แม้ว่ามันจะจริง จะถูกต้อง แต่ถ้าการพูดออกไปนั้น มันไม่มีประโยชน์มีแต่ผลเสีย อย่าพูดดีกว่า

21. การขาดความเกรงใจต่อกัน ทำให้เราทะเลาะกันได้ง่าย การมีความเกรงใจต่อกันที่มากเกินไป ก็ทำให้เราไม่เป็นตัวของตัวเอง

22. ใครที่เขากล้าพูดความจริงกับเราออกมา นั่นก็เพราะเขามีความเชื่อมั่นว่าเราจะยอมรับเขาได้

23. การฝึกวินัยให้กับลูกนั้นแท้ที่จริงแล้วเป็นการฝึกวินัยให้กับพ่อแม่ด้วย

24. หากลูกเป็นคนเฉื่อยชา เราคงต้องช่วยกระตุ้นให้กำลังใจ หากลูกเป็นคนเอาจริงเอาจังเกินไป เราคงต้องช่วยสอนให้ลูกได้ปล่อยวางบ้าง กฎเกณฑ์การเลี้ยงลูกของคนๆ หนึ่ง จึงไม่เหมือนของอีกคนๆหนึ่ง

25. เมื่อคิดจะเสนอความคิดเห็นต่างๆ ที่มองว่าดี ต้องมองถึงความเป็นจริง ความเป็นไปได้ด้วยเสมอ

26. แต่ละคนมีศักยภาพของตัวเองอยู่แล้ว เราจึงควรต้องให้เกียรติต่อกันบ้าง

27. เมื่อเป็นคนก้าวร้าวคนอื่นไม่เป็น ก็มักจะถูกคนอื่นรุกรานได้ง่ายเช่นกัน

28. ถ้าเราเชื่อเรื่องกรรม การตายก็ไม่ใช่วิธีการหนีปัญหาได้ตลอดไป เนื่องจากกรรมนั้นๆ ยังไม่ได้ชดใช้ จนหมดวาระในตัวของมันเอง เกิดชาติหน้า กรรมเก่าก็จะติดตัวต่อไปอยู่ดี

29. การมองปัญหาในแง่มุมต่างกัน ในจุดต่างกันจะทำให้เข้าใจปัญหาได้ต่างกัน

30. เราจะให้อภัยตัวเอง กับผู้อื่นได้นั้น เราต้องเข้าใจในตัวเองและผู้อื่นได้ก่อน

31. การแก้ปัญหาทางบุคลิกภาพต้องอาศัยทั้งความจริงใจและการอดทนเป็นอย่างยิ่ง

32. ความเชื่อมั่นในตนเองเป็นเรื่องที่ดี แต่..ปัจจัยแห่งความสำเร็จนั้นก็หาได้ขึ้นอยู่กับเราคนเดียวไม่

33. เวลาที่พ่อแม่จะสะกิดฝีหนองให้ลูกนั้น พ่อแม่เองก็เจ็บปวดไม่น้อย

34. บางครั้งเราต้องการให้คนอื่นมาเข้าใจเรา มากกว่าที่เราอยากจะเข้าใจตัวเอง นั่นก็เพราะว่า เรายังเป็นมนุษย์ที่ยังมีความอ่อนแออยู่บ้าง

35. เรื่องที่คนเราประทับใจ มักจะลืมเลือนได้ยาก ก็เนื่องจากความประทับใจ ไม่ใช่ความจำนั่นเอง

36. จะมีเราอยู่.....เขาก็เป็นอย่างนั้น
ไม่มีเราอยู่.....เขาก็เป็นอย่างนั้น

37. หากเขาคิดจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง จริงๆ แล้ว เราเป็นได้แค่เพียงตัวกระตุ้นเท่านั้น

38. ถ้าเราเรียนรู้ธรรมะด้วยเหตุผลเพียงอย่างเดียว เราจะสัมผัส "การรู้" ได้ยากยิ่ง

39. ความสับสนในชีวิดมันเกิด ควรหาที่ยึดเหนี่ยวให้จิตใจได้พักเสียบ้าง

40. เรื่องของชีวิต มันมีจังหวะที่ต้องรอคอยอยู่บ้าง จะเรียกร้องให้มันได้ดั่งใจเสมอไปได้อย่างไร ความจริงใจ หากถูกแปลเป็นแง่ลบแล้ว ใครยังอยากจะกล้าจริงใจให้อีก

41. เพราะความอยาก..มันถึงได้วุ่นวายกันเพียงนี้

42. ไม่ใช่ว่า ห้ามโกรธ แต่ให้รู้ว่าโกรธ ไม่ใช่แสดงความโกรธแต่ให้พูดออกมาว่าโกรธ

43. จิตและอารมณ์เป็นของแท้ ความคิด คือ ตัวปรุง

44. หากเชื่อว่า "การบ่น" จะทำให้ลูกนิสัยดีขึ้นก็น่าจะลองดู ในเมื่อความเป็นจริงนั้น "การบ่น" มักจะยิ่งทำให้ลูกแย่ลงมากกว่าเดิมเสียอีก

45. ใครเขาจะเป็นอย่างไรก็ช่าง มันอยู่ที่..เรารู้สึกอย่างไรด้วยต่างหาก

46. หากพ่อแม่คาดหวัง อยากจะให้ลูกเป็นคนดีนั้น พ่อแม่ต้องช่วยให้ลูกเป็นคนดีด้วย (อย่าเพียงแต่หวัง)

47. พ่อแม่ หากมีความรักลูกมากไปแล้ว ก็ยากที่จะสอนวินัยให้กับลูกได้ดี

48. การเข้าใจคนอื่นได้ เป็นเรื่องที่ดี การเข้าใจตนเองได้ยิ่งเป็นเรื่องที่ดี เรื่องที่แย่ และก่อให้เกิดทุกข์ได้มากก็ คือรู้สึกว่าไม่มีใครเข้าใจเราเลย

49. กังวล เกินกว่าเหตุ..เชื่อมั่น มากเกินไป..ล้วนเป็นสิ่งที่เราต้องรู้จักตนเองอยู่เสมอ

50. การเร่งแก้ปัญหา โดยรีบคิดให้ตกทันที จะยิ่งสร้างปัญหาทางอารมณ์ได้มากยิ่งขึ้น 

จีนผุดไอเดียบรรเจิด ชาร์ตแบตมือถือที่เสาไฟฟ้าข้างถนนได้


พบข้อมูลข่าว และภาพถ่ายที่แหล่งข่าวอ้างว่า เป็นภาพจากถนนบริเวณหน้ามหาวิทยาลัยหนานจิงในประเทศจีน
 


พบข้อมูลข่าว และภาพถ่ายที่แหล่งข่าวอ้างว่า เป็นภาพจากถนนบริเวณหน้ามหาวิทยาลัยหนานจิงในประเทศจีน ซึ่งมีความน่าสนใจตรงที่ถนนสายนี้มีเสาไฟฟ้าที่นอกจากจะทำหน้าที่เป็นไฟส่องทางแล้ว ยังสามารถชาร์ตแบตโทรศัพท์มือถือได้อีกด้วย
แหล่งข่าวเจ้าของภาพดังกล่าวยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่า เสาไฟฟ้าแต่ละต้นนั้นมีหัวต่อชาร์ตโทรศัพท์มือถือที่สามารถรองรับการชาร์ตได้หลากหลายรุ่น หลากหลายยี่ห้อ ไม่ว่าจะเป็น iPhone , Nokia Lumia , Sony Xperia และอื่นๆ อีกมากมาย แถมยังใช้ระยะเวลาในการชาร์ตที่ค่อนข้างเร็วมากอีกด้วย และไม่เพียงแค่ถนนสายดังกล่าวที่อยู่หน้ามหาวิทยาลัยหนานจิงเท่านั้น แต่ยังมีถนนอีกหลากหลายสายในประเทศจีนที่มีเสาไฟฟ้าชาร์ตไฟได้ให้ใช้บริการทั่วไปอีกด้วย อย่างไรก็ตามแม้ภาพ และข้อมูลข่าวดังกล่าวจะยังไม่ได้รับการยืนยันออกมาว่าเป็นเรื่องจริงหรือเป็นเพียงแค่ภาพที่ถูกแต่งขึ้นมาหลอกๆ เท่านั้น แต่จากแนวความคิดดังกล่าวหากสามารถสร้างให้เสาไฟฟ้าสามารถชาร์ตไฟโทรศัพท์มือถือได้จริง ก็คงเป็นไอเดียที่มีประโยชน์อยู่ไม่น้อย แต่คงต้องคำนึงถึงเรื่องของความปลอดภัยด้วยเช่นกัน มิเช่นนั้นจากประโยชน์ที่จะได้รับอาจกลับกลายเป็นโศกนาฏกรรมที่น่าเศร้าก็เป็นได้

แนะ 8 วิถี ดีต่อสุขภาพหัวใจ

รู้และทำแต่เนิ่นๆ กับ 8 วิถีเพื่อสุขภาพหัวใจ เรื่องใกล้ตัวอย่ามองข้าม ได้ชราภาพอย่างเป็นสุข

ตลอดระยะเวลา 20 ปีที่ผ่านมา บ้านเรากลายเป็นอีกหนึ่งประเทศที่เข้าสู่ภาวะสังคมผู้สูงอายุอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้มีผลการศึกษาของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เผยว่า ใน พ.ศ.2550 ไทยมีผู้สูงอายุราว 1 ใน 10 ของประชากร และคาดว่าเมื่อถึง พ.ศ.2573 จะมีเพิ่มขึ้นเป็น 1 ใน 4 ของจำนวนประชากร
แนะ 8 วิถี ดีต่อสุขภาพหัวใจ
การที่ในสังคมมีผู้สูงอายุเป็นจำนวนมาก หมายถึงคนมีอายุยืนยาวขึ้น เมื่อสภาพการณ์เป็นเช่นนั้น คนเราควรดูแลสุขภาพตนเองให้ดีก่อนเข้าวัยชรา และในครั้ง มุมสุขภาพ ขอแนะนำเคล็ดลับการดูแลสุขภาพหัวใจ ข้อมูลควรรู้จากงานเฮลธี 50 พลัส ของโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ที่จัดไปเมื่อปลายเดือนที่ผ่านมา
8 วิถีเพื่อสุขภาพหัวใจ เริ่มจาก รู้จักตัวเอง โดยพฤติกรรมส่วนตัว และการดำเนินชีวิตเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจ เช่น การกิน การออกกำลังกาย การเลิกสูบบุหรี่ ตามด้วย ผ่อนคลายความเครียด เนื่องจากมีผลทำให้ความดันโลหิต และระดับฮอร์โมนความเครียดเพิ่มสูงจนเป็นอันตราย
ต่อมา ลดน้ำหนักส่วนเกิน เพราะเป็นสาเหตุของโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง นำไปสู่โรคหัวใจทั้งสิ้น จากนั้น 'รับประทานอาหารที่มีประโยชน์' แนะให้ลดอาหารที่มีไขมันมาก และไขมันแปลงสภาพ ควรรับประทานผักและผลไม้ โปรตีนไขมันต่ำในปริมาณที่พอเหมาะ
พร้อมทั้งอย่ามองข้าม ตรวจสุขภาพเป็นประจำ การตรวจสุขภาพช่วยให้พบปัญหาที่อาจกลายเป็นอันตรายได้ตั้งแต่ในระยะแรกเริ่มควบคุมความดันโลหิต ความดันโลหิตสูงเป็นสาเหตุพื้นฐานของโรคหัวใจ ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงปัจจัยที่ก่อให้เกิดความดันสูง
นอกจากนี้ คือ อย่าอยู่เฉย การออกกำลังกายอย่างน้อยวันละ 30 นาที สัปดาห์ละ 4-5 ครั้ง ช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและโรคอื่นๆ ได้อย่างน่าอัศจรรย์ สุดท้าย งดบุหรี่ เพราะเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อโรคหัวใจที่ร้ายแรง เนื่องจากเต็มไปด้วยสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อหัวใจและระบบไหลเวียนโลหิต
ปฏิบัติตาม 8 วิถีข้างต้น ยามแก่ชราย่อมมีหัวใจที่แข็งแรงแน่
ที่มาข้อมูล : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

ดู MSN วิดีโอที่น่าสนใจนี้ - my home : Painting & Decoupage

ดู MSN วิดีโอที่น่าสนใจนี้ - my home : Painting & Decoupage

กล้องถ่ายรูปแห่งอนาคต ไม่ต้องใช้นิ้วกด แต่ใช้กระพริบตาแทน


ในอนาคตเราออาจไม่ต้องใช้นิ้วกดชัตเตอร์กันอีกต่อไป เมื่อมีกล้องคอนเซปต์ต้นแบบที่ชื่อว่า Iris
 


ในอนาคตเราออาจไม่ต้องใช้นิ้วกดชัตเตอร์กันอีกต่อไป เมื่อมีกล้องคอนเซปต์ต้นแบบที่ชื่อว่า Iris กล้องถ่ายภาพที่ควบคุม และสั่งการด้วยดวงตาของคุณ ด้วยรูปร่างของกล้องคล้ายกับเลนส์เล็กๆ ตัวนึง แค่มองผ่านเข้าไปแล้วทำการโฟกัสภาพ ถ้าอยากซูมเข้าซูมออกก็แค่หรี่ตา หรือเบิ่งตาให้กว้าง จากนั้นก็กระพริบตาเป็นอันเสร็จพิธี อะไรมันจะง่ายขนาดนั้น
ผลงานการออกแบบกล้องตัวนี้เป็นไอเดียของคุณ Mimi Zou ซึ่งแน่นอนว่าไม่ใช่สินค้าจริง แต่ไอเดียเข้าท่าไม่เลว เพราะนอกจากความสะดวกในการใช้งานแล้ว ตัวกล้องยังรองรับการโอนไฟล์ภาพผ่าน Wi-Fi หรือ SD Card ในตัว เท่านั้นยังไม่พอ เพราะตัวกล้องยังมีระบบจดจำใบหน้า และข้อมูลสถานที่ต่างๆ รวมถึงการตั้งค่ากล้องตามที่เจ้าของกล้องใช้งานบ่อยๆ ด้วย ไม่ธรรมดาเสียนี่กระไร

"ในหลวง" เสด็จพิธีเปิดโครงการชลประทาน ท่ามกลางพสกนิกรเฝ้ารับเสด็จฯ


"ในหลวง" เสด็จพิธีเปิดโครงการชลประทาน ท่ามกลางพสกนิกรเฝ้ารับเสด็จฯ
 
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินโดยรถเข็นพระที่นั่งลงจากที่ประทับชั้น 16 อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลศิริราช พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทางชลมารคไปทรงเปิด 5 โครงการชลประทาน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ
ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงฉลองพระองค์ทหารเรือเครื่องแบบปกติขาวคอพับแขนสั้น เสด็จฯ ยังท่าเทียบเรือสมาคมศิษย์เก่าแพทย์ศิริราช ในพระบรมราชูปถัมภ์ เพื่อประทับเรือพระที่นั่งอังสนา ซึ่งทางกองทัพเรือจัดถวาย พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ อยู่ในฉลองพระองค์ชุดสีน้ำเงินเข้ม สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โดยมีพสกนิกรที่พร้อมใจกันสวมเสื้อสีชมพู และชูพระบรมฉายาลักษณ์ พร้อมโบกธงพระปรมาภิไธย และธงชาติไทย เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จฯ และเปล่งเสียง "ทรงพระเจริญ" ดังกึกก้องตลอดเส้นทางเสด็จฯ
จากนั้น พล.ร.อ.สุรศักดิ์ หรุ่มเริงรมย์ ผบ.ทร. กราบบังคมทูลรายงาน ก่อนเสด็จพระราชดำเนินไปประทับบนเรือพระที่นั่งอังสนา  พล.ร.อ.เถกิงศักดิ์ วังแก้ว เสนาธิการทหารเรือ กราบบังคมทูลขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต ออกเรือ และทูลเกล้าฯ ถวายสูจิบัตรเส้นทางการเดินเรือ
ต่อจากนั้นเรือพระที่นั่งอังสนา ออกจากบริเวณท่าเทียบเรือสมาคมศิษย์เก่าแพทย์ศิริราช ไปยังบริเวณเกาะเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี โดยเรือพระที่นั่งจะผ่านสถานที่สำคัญต่าง ๆ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา อาทิ สะพานพระปิ่นเกล้า , สะพานพระราม 8 , สะพานกรุงธนบุรี  ,กรมชลประทาน ไปยังสะพานพระราม 7 ผ่านหน้าการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย  ,สะพานพระราม 5 ,ท่าน้ำนนทบุรี , สะพานพระนั่งเกล้า  , วัดเชิงเลน วัดกลางเกร็ด , วัดฉิมพลี  แล้ววนซ้ายรอบเกาะเกร็ด ซึ่งมีเจดีย์กลางน้ำเป็นสัญลักษณ์  กลับมายังบริเวณหน้ากรมชลประทาน สามเสน
ต่อมาเวลา18.45 น.เรือพระที่นั่งอังสนาถึงบริเวณหน้ากรมชลประทาน สามเสน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กราบบังคมทูลรายงาน และเบิกรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และอธิบดีกรมชลประทาน กราบบังคมทูลรายงาน
ถัดมาเวลา 19.05 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  ประทับบนเรือพระที่นั่งอังสนา ทอดพระเนตรการแสดงสื่อผสม "น้ำสร้างชีวิต" โดยใช้เทคนิคแสงสีเสียงที่ทันสมัย ถ่ายทอดเรื่องราวในลักษณะไตรวิชั่นฉายไปบนจอวีดิทัศน์ขนาดใหญ่กว้าง 45 เมตร สูง 12 เมตร ที่ติดตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา
เมื่อการแสดงเสร็จสิ้น นายกรัฐมนตรี กราบบังคมทูลเบิกผู้ว่าราชการจังหวัด 5 จังหวัดประกอบด้วย จ.นครนายก นครศรีธรรมราช นครพนม พิษณุโลก และกาฬสินธุ์ เปิดกรวยกระทงดอกไม้ ธูปเทียนแพ และกราบบังคมทูลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงประกอบพิธีเปิด 5 โครงการชลประทาน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ  ได้แก่ เขื่อนขุนด่านปราการชล จ.นครนายก เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน จ.พิษณุโลก ประตูระบายน้ำอุทกวิภาชประสิทธิ์ จ.นครศรีธรรมราช ประตูระบายน้ำธรณิศนฤมิต จ.นครพนม และอุโมงค์ผันน้ำลำพะยังภูมิพัฒน์ จ.กาฬสินธุ์
จากนั้นเวลา 19.50 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงวางพระหัตถ์บนแท่นตราสัญลักษณ์โครงการ พร้อมทอดพระเนตรวีดิทัศน์บรรยากาศสดจาก 5 จังหวัด ที่ร่วมกันแปรอักษรเป็นคำว่า "ทรงพระเจริญ" เมื่อเสร็จพิธี เรือพระที่นั่งอังสนาแล่นออกจากบริเวณที่ท่าเทียบเรือหน้ากรมชลประทานสามเสน กลับไปยังท่าเทียบเรือสมาคมศิษย์เก่าแพทย์ศิริราช โรงพยาบาลศิริราช ในเวลา 20.30 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ พร้อมด้วยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ กลับยังที่ประทับชั้น 16 อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลศิริราช
ส่วนบรรยากาศใน 5 จังหวัดซึ่งเป็นที่ตั้งโครงการชลประทานอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเต็มไปด้วยความคึกคักพสกนิกรต่างเดินทางมาร่วมพิธีเปิดโครงการชลประทานกันอย่างเนื่องแน่น สำหรับแนวพระราชดำริที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานให้กรมชลประทานดำเนินงานพัฒนาแหล่งน้ำทั่วทุกภูมิภาคของประเทศมาตลอดระยะเวลาอันยาวนานกว่า 2,500 โครงการ และในระหว่างพุทธศักราช 2539 ถึงปัจจุบัน กรมชลประทานได้ดำเนินการก่อสร้างโครงการชลประทานอันเนื่องมาจากพระราชดำริที่สำคัญแล้วเสร็จ พร้อมทั้งได้รับพระราชทานนาม จำนวน 5 โครงการ อันได้แก่ โครงการที่ 1 โครงการอุโมงค์ผันน้ำลำพะยังภูมิพัฒน์  จ.กาฬสินธุ์ โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการพัฒนาลุ่มน้ำลำพะยังตอนบนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ  และได้ก่อสร้างอุโมงค์ผันน้ำเมื่อพุทธศักราช 2548 แล้วเสร็จในพุทธศักราช 2550 สามารถผันน้ำมาช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรด้านท้ายอ่างเก็บน้ำลำพะยังตอนบน 12,000 ไร่
โครงการที่ 2 ประตูระบายน้ำธรณิศนฤมิต จ.นครพนม เป็นประตูระบายน้ำที่สำคัญที่สุดในประตูระบายน้ำทั้ง 7 แห่งของโครงการพัฒนาลุ่มน้ำก่ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริ กรมชลประทานได้ดำเนินการก่อสร้างจากภาพร่างลายพระหัตถ์ ที่ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ได้พระราชทานแก่ กรมชลประทาน โดยก่อสร้างเมื่อพุทธศักราช 2550 แล้วเสร็จในพุทธศักราช 2552 สามารถสนับสนุนพื้นที่การเกษตรใน จ.สกลนครและ จ.นครพนม 165,000 ไร่ และช่วยบรรเทาอุทกภัยในฤดูน้ำหลา
โครงการที่ 3 ประตูระบายน้ำอุทกวิภาชประสิทธิ จ.นครศรีธรรมราช  โครงการนี้เป็นหัวใจสำคัญของโครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังอันเนื่องมาจากพระราชดำริ  ก่อสร้างแล้วเสร็จในพุทธศักราช 2542 ทำหน้าที่แยกน้ำเค็มและน้ำจืดออกจากกัน สามารถเก็บกักน้ำจืดเพื่อให้ราษฎรสามารถทำการเกษตรในฤดูฝน 480,000 ไร่ และในฤดูแล้งสามารถทำนาปรังเพิ่มขึ้นจากเดิม 52,000 ไร่  เป็น 200,000 ไร่  รวมทั้งช่วยบรรเทาอุทกภัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ
โครงการที่ 4  เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน จ.พิษณุโลก เป็นโครงการเขื่อนเก็บกักน้ำที่ก่อสร้างขึ้นในแม่น้ำแควน้อย ดำเนินการเมื่อพุทธศักราช 2548 แล้วเสร็จในพุทธศักราช 2552 เก็บกักน้ำได้ 939 ล้านลูกบาศก์เมตร  สามารถส่งน้ำไปยังพื้นที่เพาะปลูก จำนวน 155,100 ไร่ ได้อย่างสมบูรณ์ตลอดทั้งปี รวมทั้งช่วยบรรเทาอุทกภัยในเขตลุ่มน้ำแควน้อยตอนล่าง และพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาบางส่วน
โครงการที่ 5 เขื่อนขุนด่านปราการชล  จ.นครนายก โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการพัฒนาลุ่มน้ำนครนายก ก่อสร้างเมื่อพุทธศักราช 2542 แล้วเสร็จในพุทธศักราช 2547 เก็บกักน้ำได้ 225 ล้านลูกบาศก์เมตร สามารถส่งน้ำให้แก่ราษฎรที่อาศัยอยู่บริเวณตอนล่างของลุ่มน้ำนครนายกเพื่อใช้ทำการเกษตร 185,000 ไร่ ตลอดจนมีน้ำใช้เพื่อการอุปโภคบริโภค อุตสาหกรรม และเพื่อการแก้ไขปัญหาดินเปรี้ยว รวมทั้งช่วยบรรเทาอุทกภัยที่มักจะเกิดขึ้นเป็นประจำทุกปีในเขต จ.นครนายก